นักขาย!ร้องอีก‘ยูนิซิตี้’ตัดโค้ด-ลอบขาย-โปรโมตคนล้มละลาย

โผล่อีกราย “ขายตรงมีชื่อ” สมาชิก TDSA แบรนด์ดังข้ามโลก “ยูนิซิตี้” หลัง “นักขาย” หอบเอกสารร้อง “บก.ปคบ.” โดนตัดโค้ดข้อหากระทำผิดระเบียบ ขณะบริษัทกลับมี “พฤติการณ์” ขายสินค้ายังไม่ผ่าน “สคบ.”  ลอบทำตลาด  กันโต้งๆ  โดยก่อนหน้าตั้งอดีตผู้ต้องหาแชร์บลิสเชอร์ “แสงทอง แซ่กิม” ผู้เคยโดนศาลลงอาญาจำคุกลืมแสนกว่าปีจนเป็น “บุคคลล้มละลาย” คุมบังเหียนนำทีมนักขายเบอร์ 1 โหมโปรโมตความสำเร็จโชว์ภาพความร่ำรวยเงินล้าน ระดมคนสมัครชุดธุรกิจ 25,500 บาท เข้าข่ายแหกตาหรือไม่!!

นายพงศ์สุลักษณ์  ดีสูงเนิน นักธุรกิจอิสระระดับ  ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ยูนิซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ ถวิลบุญ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคุ้มครองผู้บริโภค (กก.1 บก.ปคบ.) เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับบริษัทยูนิซิตี้ฯ ที่ระงับการจ่ายผลตอบแทนคอมมิชั่นและไม่ให้ซื้อขายสินค้าบริษัทตามปกติ กระทั่งบอกเลิกสัญญาในที่สุด

“เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 52 บริษัทได้ตัดโค้ตผม ทำให้ผมซื้อขายสินค้าตามปกติไม่ได้ ซึ่งผมมีลูกทีมในสังกัดมากเป็นหมื่นคน แล้วต่อมาในวันที่ 1 ธันวาคมปีเดียวกันบริษัทก็บอกเลิกสัญญาผมอีกโดยไม่แจ้งให้ผมทราบอะไรเลยในตอนนั้นทำให้ผมเสียหายขาดรายได้ที่ผมควรได้กว่า 3 แสนบาท”  นายพงศ์สุลักษณ์กล่าว และว่า
ทางบริษัทยูนิซิตี้ฯ ได้อ้างว่าบริษัทได้รับการร้องเรียนจากนักธุรกิจอิสระกลุ่มหนึ่งที่ระบุว่าเขากระทำผิดระเบียบของที่นำสินค้าของบริษัทไปวางจำหน่ายในร้านค้าปลีก โดยไม่แจ้งว่าบุคคลที่ร้องเรียนนั้นเป็นใครและมีหลักฐานเพียงพอหรือไม่กับการกล่าวหาและตัดรหัสของเขา ส่งผลให้เขาขาดโอกาสในการจะได้รับประโยชน์ทั้งจากการบริหารสายงานกว่า 1 หมื่นคน และผลตอบแทนรวมคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 382,049.40 บาท

นายพงศ์สุลักษณ์กล่าวอีกว่า การที่บริษัทฯ กล่าวหาเขาว่าแอบนำสินค้าไปขายปลีกจนผิดระเบียบบริษัทและนำมาซึ่งการตัดโค้ตและบอกสัญญาการเป็นนักธุรกิจอิสระของบริษัทฯ ครั้งนี้ถือว่าไม่เป็นธรรมกับเขาด้วยยังไม่มีการพิสูจน์หลักฐานอย่างชัดเจน ขณะที่ทางบริษัทเองก็มีพฤติกรรมที่น่าสังเกตุกับการนำผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ได้ยื่นจดทะเบียนแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เช่นน้ำหว่านหางจรเข้ อาหารเสริมพาราเว เอ็นจีวีเน็ท และอื่นๆ อีกหลายประเภทมาเสนอขายอยู่ในเวลานี้

“ตอนนี้บริษัทเองกำลังทำอะไรกันอยู่กับการที่ให้นายโจ ชวิช กิม หรือชื่อเดิมนายแสงทอง แซ่กิม อดีตผู้บริหารบลิสเชอร์ ที่ถูกศาลฟ้องเป็นจำเลยต่ออาญาและถูกพิพากอาญาจำคุกกว่าแสนปี และยังถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย มาเป็นผู้นำนักขายหมายเลข 1 ตำแหน่งเพลสสิเด้นท์ ไดมอน แล้วให้บรรยายแผนการตลาดให้กับบริษัทฯ ซึ่งการโปรโมตบุคคลล้มละลายว่าเป็นผู้ประสบความสำเร็จมีรายได้เดือนละล้านบาทนั้น อาจเป็นการโฆษณาชวนเชื่อหรือหลอกให้สมาชิกหลงเชื่อหรือไม่”

ด้าน พ.ต.ท.ยุทธพงศ์ ถวิลบุญ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคุ้มครองผู้บริโภค (กก.1 บก.ปคบ.) กล่าวยอมรับว่า หากพิจารณาข้อกล่าวหาแล้ว บริษัทยูนิซิตี้อาจเข้าข่ายความผิดว่า มีพฤติกรรมประกอบธุรกิจขายตรงไม่ตรงกับที่บริษัทฯได้จดแจ้งขออนุญาตกับนายทะเบียนคือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ตามข้อบังคับกฎหมายขายตรง (พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545) มาตรา38 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม กับมาตรา 52 และ 54 ประกอบประมาลกฎหมายอาญามาตรา 83

“การที่นักธุรกิจอิสระรายนี้มาพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ.เพื่อร้องทุกช์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับบริษัทยูนิซิตี้ฯ นั้น ถือว่าอาจเข้าข่ายความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงไม่เป็นไปตามที่ได้ยื่นคำขอไว้กับนายทะเบียนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด โดยไม่แจ้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการให้นายทะเบียนทราบก่อนที่นำไปปฏิบัติ ก็จะมีความผิดตามกฎหมายขายตรง”

ทั้งนี้มาตรา 38 วรรคหนึ่งกฎหมายขายตรงฯ ระบุไว้ บุคคลใดประสค์จะประกอบธุรกิจขายตรงหรือประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ให้ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการประกาศกำหนด และวรรคสาม ระบุว่า ในกรณีจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนการจ่ายผลตอบแทน ผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้นายทะเบียนทราบก่อนจึงจะนำไปปฏิบัติได้

อนึ่ง บริษัทยูนิซิตี้ มาเก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นขายตรงแบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกาที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยนานกว่า 10 ปี และยังเป็นสมาชิกสมาคมการขายตรงไทย (TDSA) โดยการดำเนินธุรกิจขายตรงจะเน้นให้ผู้จำหน่ายอิสระหรือผู้แนะนำหรือตัวแทนขายตรงทำการแนะนำให้สมาชิกใหม่สมัคร 500 บาท และซื้อสินค้าโปรโมชั่นพิเศษในครั้งแรก 25,000 บาท โดยได้สินค้าเป็น คลอโรฟิล จำนวน 34 กระปุก และเนเจอที (ชา) จำนวน 10 กล่อง โดยแต่ละคนสามารถสมัครได้เพียง 1 รหัส และหลังจากนั้นเมื่อมีการสร้างเครือข่ายจะมีสิทธิได้รับผลประโยชน์ตามแผยการจ่ายตอบแทนตั้งแต่ 3 ถึง 30 เปอร์เซนต์ ตามลำดับชั้นลึกที่มีทั้งหมด 10 ชั้ อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ปีที่ 8 ฉบับที่ 185 ปักษ์แรก ประจำวันที่ 1-15 สิงหาคม 2553